Create Domain
click here > Link create domain
DHCP
click here > Install and Configure DHCP Server in Win server 2003
Create a Domain user account for windows server 2003
click here> Link vdo create domain user
VPN บน Windows 2003 Server
click here > Link config VPN
Config VPN
วันพฤหัสบดีที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2554
วันอังคารที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2554
Firewall คืออะไรและทำอะไรได้บ้าง
ถ้าแปลเป็นภาษาไทย จะหมายถึง กำแพงไฟ ซึ่งน่าจะหมายถึงการป้องกันการบุกรุก โดยการสร้างกำแพง อย่างไรก็ตาม ความหมายของ Firewall สามารถอธิบายได้ดังนี้ คือ Firewall เป็นเครื่องมือที่ใช้สำหรับป้องกันระบบ Network (เครือข่าย) จากการสื่อสารทั่วไปที่ถูกบุกรุก จากผู้ที่ไม่ได้รับอนุญาต เป็นเรื่องเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยในระบบ Network หรือระบบเครือข่าย การป้องกันโดยใช้ระบบ Firewall นี้จะเป็นการกำหนดกฏเกณฑ์ในการควบคุมการเข้า-ออก หรือการควบคุมการรับ-ส่งข้อมูล ในระบบเครือข่าย นั่นเอง
เดิมการใช้งานคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่ จะเป็นการใช้งานส่วนบุคคล ดังนั้น ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในระหว่างการใช้งานจึงมีไม่มากนัก ต่อมาเมื่อระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ตเป็นที่แพร่หลายมาก ทุกองค์กร ทุกธุรกิจมีการใช้งานอินเตอร์เน็ต อย่างน้อยก็ใช้งาน อีเมล์ในการรับส่งจดหมายอิเล็คทรอนิกส์ ดังนั้น ผลพวงที่ตามมาคือ เกิดผู้ไม่ประสงค์ดี หาวิธีการในการลักลอบเข้าดูในเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ เพื่อค้นหาข้อมูล หรือต้องการทดสอบความสามารถของตนเอง ตลอดจน ไวรัสคอมพิวเตอร์ ก็ได้อาศัยช่องทางของเครือข่ายอินเตอร์เน็ต เป็นช่องทางในการแพร่กระจายไวรัส
อะไรบ้างที่ Firewall ทำได้
1.บังคับใช้นโยบายด้านความปลอดภัย โดยการกำหนดกฏให้กับ Firewall ว่าจะอนุญาตหรือไม่ให้ใช้ Service ชนิดใด
2.ทำให้การพิจารณาดูแลและการตัดสินใจด้านความปลอดภัยของระบบเป็นไปได้ง่ายขึ้น เนื่องจากการติดต่อทุกชนิดกับ Network ภายนอกจะต้องผ่าน Firewall การดูแลความปลอดภัยในระดับของ Network
3.บันทึกข้อมูล กิจกรรมต่างๆที่ผ่านเข้าออก Network ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4.ป้องกัน Network บางส่วนจากการเข้าถึงของ Network ภายนอก
5.Firewall บางชนิด สามารถป้องกันไวรัสได้ โดยการทำหน้าที่เป็นผู้ตรวจๆไฟล์ที่โอนย้ายผ่านทาง Protocol HTTP,FTP และ SMTP
อะไรบ้างที่ Firewall ทำไม่ได้1.อันตรายที่เกิดจาก Network ภายในด้วยกันเอง เพราะไม่จำเป็นต้องผ่าน Firewall เข้ามา
2.อันตรายจากภายนอกที่ไม่ได้ผ่าน Firewall เข้ามา เช่นการ Dial-up เข้ามายัง Network โดยตรงไม่ได้ผ่าน Firewall
3.อันตรายจากวิธีใหม่ๆที่เกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมอ
4.ยังไม่มี Firewall ชนืดใดตรวจจับไวรัสได้ในทุกๆ Protocol
ที่มาของข้อมูล
Cat5 กับ Cat6 ต่างกันอย่างไร
CAT5 มี MAXIMUM SPEED อยู่ที่ 100 Mbps Bandwidth 100 MHz
CAT5e มี MAXIMUM SPEED อยู่ที่ 1 Gbps Bandwidth 100 MHz
CAT6 มี MAXIMUM SPEED อยู่ที่ 10 Gbps Bandwidth 200-250 MHz
** CAT6 ใช้ในงานระดับ Gigabit อุปกรณ์ทุกตัวต้องเป็นระดับ Gigabit
ที่นิยมในปัจจุบันคือ CAT5e และ CAT6 เพราะในประเทศไทยยังใช้ Switch ที่มีความเร็วอยู่ที่ 10/100/1000 Mbps
การป้องกันการเข้าถึงระบบ สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท
- Logical Access หมายถึง การเข้าถึงผ่านระบบ Network เช่น ผ่านระบบ เครือข่ายอินเทอร์เน็ต เป็นต้น
- Physical Access หมายถึง การเข้าถึงในลักษณะถึงตัวเครื่องจริงๆ พูดง่ายๆ คือ การเข้าถึงในลักษณะเดินเข้ามาใช้งาน หรือลักลอบเข้ามาใช้งานถึงตัวเครื่องคอมฯ ในระบบ Network นั้นๆ
คุณสมบัติของ Firewall
- Protect
Firewall เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการป้องกัน โดยข้อมูลที่มีการรับหรือส่งผ่านระบบเครือข่าย โดยจะถูกกำหนดเป็นกฏเกณฑ์ หรือ Rule เพื่อใช้บังคับในการสื่อสารภายในเครือข่าย (ข้อมูลที่มีการรับส่งภายใน หรือภายนอกระบบเครือข่าย เราเรียกว่า Package) - Rule Baseข้อกำหนดในการควบคุมการรับ-ส่งข้อมูลภายในระบบเครือข่าย ดังนั้น การติดตั้ง Firewall จะต้องมีการกำหนดกฏเกณฑ์ ในการควบคุมการทำงานในระบบเครือข่าย
- Access Control
หมายถึง การควบคุมระดับการเข้าถึง การรับ-ส่งข้อมูล
เดิมการใช้งานคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่ จะเป็นการใช้งานส่วนบุคคล ดังนั้น ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในระหว่างการใช้งานจึงมีไม่มากนัก ต่อมาเมื่อระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ตเป็นที่แพร่หลายมาก ทุกองค์กร ทุกธุรกิจมีการใช้งานอินเตอร์เน็ต อย่างน้อยก็ใช้งาน อีเมล์ในการรับส่งจดหมายอิเล็คทรอนิกส์ ดังนั้น ผลพวงที่ตามมาคือ เกิดผู้ไม่ประสงค์ดี หาวิธีการในการลักลอบเข้าดูในเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ เพื่อค้นหาข้อมูล หรือต้องการทดสอบความสามารถของตนเอง ตลอดจน ไวรัสคอมพิวเตอร์ ก็ได้อาศัยช่องทางของเครือข่ายอินเตอร์เน็ต เป็นช่องทางในการแพร่กระจายไวรัส
อะไรบ้างที่ Firewall ทำได้
1.บังคับใช้นโยบายด้านความปลอดภัย โดยการกำหนดกฏให้กับ Firewall ว่าจะอนุญาตหรือไม่ให้ใช้ Service ชนิดใด
2.ทำให้การพิจารณาดูแลและการตัดสินใจด้านความปลอดภัยของระบบเป็นไปได้ง่ายขึ้น เนื่องจากการติดต่อทุกชนิดกับ Network ภายนอกจะต้องผ่าน Firewall การดูแลความปลอดภัยในระดับของ Network
3.บันทึกข้อมูล กิจกรรมต่างๆที่ผ่านเข้าออก Network ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4.ป้องกัน Network บางส่วนจากการเข้าถึงของ Network ภายนอก
5.Firewall บางชนิด สามารถป้องกันไวรัสได้ โดยการทำหน้าที่เป็นผู้ตรวจๆไฟล์ที่โอนย้ายผ่านทาง Protocol HTTP,FTP และ SMTP
อะไรบ้างที่ Firewall ทำไม่ได้1.อันตรายที่เกิดจาก Network ภายในด้วยกันเอง เพราะไม่จำเป็นต้องผ่าน Firewall เข้ามา
2.อันตรายจากภายนอกที่ไม่ได้ผ่าน Firewall เข้ามา เช่นการ Dial-up เข้ามายัง Network โดยตรงไม่ได้ผ่าน Firewall
3.อันตรายจากวิธีใหม่ๆที่เกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมอ
4.ยังไม่มี Firewall ชนืดใดตรวจจับไวรัสได้ในทุกๆ Protocol
ที่มาของข้อมูล
Cat5 กับ Cat6 ต่างกันอย่างไร
CAT5 มี MAXIMUM SPEED อยู่ที่ 100 Mbps Bandwidth 100 MHz
CAT5e มี MAXIMUM SPEED อยู่ที่ 1 Gbps Bandwidth 100 MHz
CAT6 มี MAXIMUM SPEED อยู่ที่ 10 Gbps Bandwidth 200-250 MHz
** CAT6 ใช้ในงานระดับ Gigabit อุปกรณ์ทุกตัวต้องเป็นระดับ Gigabit
ที่นิยมในปัจจุบันคือ CAT5e และ CAT6 เพราะในประเทศไทยยังใช้ Switch ที่มีความเร็วอยู่ที่ 10/100/1000 Mbps
ป้ายกำกับ:
Firewall
วันศุกร์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2554
ประเภทของ Server
ประเภทของเซิร์ฟเวอร์ โดยปกติจะแบ่งได้เป็น 4 ประเภท คือ File Server , Print Server , Database Server , Application Server การแบ่งออกเป็น 4 ประะเภทนั้น แบ่งตามลักษณะการใช้งาน คือ เก็บ-บริการไฟล์ บริการ/บริหาร งานพิมพ์ เก็บและบริการฐานข้อมูล และบริการ/บริหารซอฟต์แวร์ประยุกต์ ส่วน Mail Server, Internet Server หรือประเภทอื่นๆที่มีการเรียกชื่อนั้น เกิดจากการนำเอาเซิร์ฟเวอร์มากกว่า 2 ประเภทมารวมกันในตัวเดียว
File Server
เป็นเซิร์ฟเวอร์ที่มีหน้าที่จัดเก็บไฟล์ โดยการจัดเก็บไฟล์จะทำเสมือนเป็นฮาร์ดดิสก์รวมศูนย์ (Centerized disk storage) เสมือนว่าผู้ใช้งานทุกคนมีที่เก็บข้อมูลอยู่ที่เดียว เพราะควบคุม-บริหารง่าย การสำรองข้อมูล การ Restore ง่าย ข้อมูลดังกล่าวสามารถ Shared ให้กับ Client ได้ โดยส่วนมากข้อมูลที่อยู่ใน File Server คือ โปรแกรมและข้อมูล (Personal Data File) โดยปกติแล้วเซิร์ฟเวอร์ไม่มีหน้าที่ต้องประมวลข้อมูลเหล่านี้ เป็นเพียงแหล่งเก็บข้อมูล กล่าวง่ายๆ ก็คือ File Server ทำหน้าเสมือน Input/Output สำหรับไฟล์
การทำงานของเซิร์ฟเวอร์ที่เป็น File Server นั้น ในทางเทคนิคแล้วยังไม่เรียกว่าเป็น "Client/Server" เพราะไม่มีการแบ่งโหลดการทำงานระหว่างไคลเอ็นต์กับเซิร์ฟเวอร์ แต่หน้าที่ที่ File Server จะต้องจัดการคือ มี NOS (Network Operating System) ที่ดูแลเกี่ยวกับการ "เข้าถึง" ไฟล์ ต้องมีกระบวน "Lock" ไว้ ไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนในการแก้ไขไฟล์ เช่น ขณะที่ผู้ใช้งานคนที่ 1 เปิด ไฟล์ A และกำลังแก้ไข (edit) อยู่ ผู้ใช้งานคนที่สองจะเปิดไฟล์ A เพื่อแก้ไขไม่ได้ (แต่เปิดเพื่ออ่าน Read Only ได้) แต่ถ้าหากข้อมูลนั้นเป็น Database แทนที่ไฟล์หรือฐานข้อมูลทั้งฐานข้อมูลจะถูก Lock กระบวนการ Lock ก็อาจจะเกิดเฉพาะ Record (Row) นี้เป็นหน้าที่ของ NOS และ Application ที่ใช้งาน
Print Server
หนึ่งเหตุผลที่ต้องมี Print Server ก็คือ เพื่อแบ่งให้พรินเตอร์ราคาแพงบางรุ่นที่ออกแบบมาสำหรับการทำงานมากๆ เช่น HP Laser 5000 พิมพ์ได้ 10 - 24 แผ่นต่อนาที พรินเตอร์ประเภทนี้ ความสามารถในการทำงานสูง ถ้าหากซื้อมาเพื่อใช้งานเพียงคนเดียว แต่ละวันพิมพ์ 50 แผ่น ก็ไม่คุ้มค่า ดังนั้นจึงต้องมีกระบวนการจัดการแบ่งปันพรินเตอร์ดังกล่าวให้กับผู้ใช้ทุกๆคนในสำนักงาน หน้าที่ในการแบ่งปัน ก็ประกอบด้วย การจัดคิว ใครสั่งพิมพ์ก่อน การจัดการเรื่อง File Spooling เป็นของเซิร์ฟเวอร์ ที่มีชื่อว่า Print Server
โดยส่วนใหญ่ในองค์กร น้อยองค์กรที่จะซื้อเซิร์ฟเวอร์มาเพื่อใช้สำหรับเป็น Print Server โดยเฉพาะ แต่จะใช้วิธีเอาเซิร์ฟเวอร์ที่ซื้อมาเพื่อเป็น File Server , Data Base server ทำเป็น Print Server ไปด้วย
Database Server
Database Server หมายถึง เซิร์ฟเวอร์ที่มีไว้เพื่อรันระบบที่เป็นฐานข้อมูล DBMS (DataBase Managment System ) เช่น SQL , Informix เป็นต้น โดยภายในเซิร์ฟเวอร์ที่มีทั้งฐานข้อมูลและตัวจัดการฐานข้อมูล ตัวจัดการฐานข้อมูลในที่นี้หมายถึง มีการแบ่งปัน การประมวลผล โดยผ่านทางไคลเอ็นต์
Application Server
Application Server คือ เซิร์ฟเวอร์ที่รันโปรแกรมประยุกต์ได้ด้วย โดยการทำงานสอดคล้องกับไคลเอ็นต์ เช่น Mail Server (รัน MS Exchange Server) Proxy Server (รัน Proxy Server) หรือ Web Server (รัน Web Server Program เช่น Xitami , Apache' )
File Server
เป็นเซิร์ฟเวอร์ที่มีหน้าที่จัดเก็บไฟล์ โดยการจัดเก็บไฟล์จะทำเสมือนเป็นฮาร์ดดิสก์รวมศูนย์ (Centerized disk storage) เสมือนว่าผู้ใช้งานทุกคนมีที่เก็บข้อมูลอยู่ที่เดียว เพราะควบคุม-บริหารง่าย การสำรองข้อมูล การ Restore ง่าย ข้อมูลดังกล่าวสามารถ Shared ให้กับ Client ได้ โดยส่วนมากข้อมูลที่อยู่ใน File Server คือ โปรแกรมและข้อมูล (Personal Data File) โดยปกติแล้วเซิร์ฟเวอร์ไม่มีหน้าที่ต้องประมวลข้อมูลเหล่านี้ เป็นเพียงแหล่งเก็บข้อมูล กล่าวง่ายๆ ก็คือ File Server ทำหน้าเสมือน Input/Output สำหรับไฟล์
การทำงานของเซิร์ฟเวอร์ที่เป็น File Server นั้น ในทางเทคนิคแล้วยังไม่เรียกว่าเป็น "Client/Server" เพราะไม่มีการแบ่งโหลดการทำงานระหว่างไคลเอ็นต์กับเซิร์ฟเวอร์ แต่หน้าที่ที่ File Server จะต้องจัดการคือ มี NOS (Network Operating System) ที่ดูแลเกี่ยวกับการ "เข้าถึง" ไฟล์ ต้องมีกระบวน "Lock" ไว้ ไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนในการแก้ไขไฟล์ เช่น ขณะที่ผู้ใช้งานคนที่ 1 เปิด ไฟล์ A และกำลังแก้ไข (edit) อยู่ ผู้ใช้งานคนที่สองจะเปิดไฟล์ A เพื่อแก้ไขไม่ได้ (แต่เปิดเพื่ออ่าน Read Only ได้) แต่ถ้าหากข้อมูลนั้นเป็น Database แทนที่ไฟล์หรือฐานข้อมูลทั้งฐานข้อมูลจะถูก Lock กระบวนการ Lock ก็อาจจะเกิดเฉพาะ Record (Row) นี้เป็นหน้าที่ของ NOS และ Application ที่ใช้งาน
Print Server
หนึ่งเหตุผลที่ต้องมี Print Server ก็คือ เพื่อแบ่งให้พรินเตอร์ราคาแพงบางรุ่นที่ออกแบบมาสำหรับการทำงานมากๆ เช่น HP Laser 5000 พิมพ์ได้ 10 - 24 แผ่นต่อนาที พรินเตอร์ประเภทนี้ ความสามารถในการทำงานสูง ถ้าหากซื้อมาเพื่อใช้งานเพียงคนเดียว แต่ละวันพิมพ์ 50 แผ่น ก็ไม่คุ้มค่า ดังนั้นจึงต้องมีกระบวนการจัดการแบ่งปันพรินเตอร์ดังกล่าวให้กับผู้ใช้ทุกๆคนในสำนักงาน หน้าที่ในการแบ่งปัน ก็ประกอบด้วย การจัดคิว ใครสั่งพิมพ์ก่อน การจัดการเรื่อง File Spooling เป็นของเซิร์ฟเวอร์ ที่มีชื่อว่า Print Server
โดยส่วนใหญ่ในองค์กร น้อยองค์กรที่จะซื้อเซิร์ฟเวอร์มาเพื่อใช้สำหรับเป็น Print Server โดยเฉพาะ แต่จะใช้วิธีเอาเซิร์ฟเวอร์ที่ซื้อมาเพื่อเป็น File Server , Data Base server ทำเป็น Print Server ไปด้วย
Database Server
Database Server หมายถึง เซิร์ฟเวอร์ที่มีไว้เพื่อรันระบบที่เป็นฐานข้อมูล DBMS (DataBase Managment System ) เช่น SQL , Informix เป็นต้น โดยภายในเซิร์ฟเวอร์ที่มีทั้งฐานข้อมูลและตัวจัดการฐานข้อมูล ตัวจัดการฐานข้อมูลในที่นี้หมายถึง มีการแบ่งปัน การประมวลผล โดยผ่านทางไคลเอ็นต์
Application Server
Application Server คือ เซิร์ฟเวอร์ที่รันโปรแกรมประยุกต์ได้ด้วย โดยการทำงานสอดคล้องกับไคลเอ็นต์ เช่น Mail Server (รัน MS Exchange Server) Proxy Server (รัน Proxy Server) หรือ Web Server (รัน Web Server Program เช่น Xitami , Apache' )
วิธีติดตั้ง Windows Server 2003 เป็น Print Server
การติดตั้งเซิร์ฟเวอร์ 2003 เป็นพรินเซิร์ฟเวอร์ (Print Server)นอกจากบริการแชร์ไฟล์และโฟลเดอร์แล้ว บริการอย่างหนึ่งที่มีการใช้งานกันมากในสำนักงานหรือแม้การใช้งานในบ้านการแชร์ก็ตาม คือการแชร์พรินเตอร์ โดย Windos Server 2003 นั้น ก็สามรถทำหน้าที่พริ้นเซิร์ฟเวอร์ (Print Server) เพื่อให้บริการแชร์พรินเตอร์ได้เช่นกัน
สำหรับวิธีการติดตั้งให้ Windows Server 2003 ทำหน้าที่เป็นพริ้นเซิร์ฟเวอร์ (Print Server) นั้นทำได้โดยการเพิ่ม Role ให้กับเซิร์ฟเวอร์จากหน้าต่าง Manage Your Server ลักษณะเช่นเดียวกับการติดตั้งเปนไฟล์เซิร์ฟเวอร์ โดยเมื่อเพิ่ม Role เสร็จแล้วจะมีลิงค์ Add a Printer บนหน้าต่าง Manage Your Server เพื่อใช้ในการ Add Printer เพื่อให้บริการแก่ยูสเซอร์
การติดตั้ง Windows Server 2003 เป็น Print Server
การติดตั้ง Windows Server 2003 ให้เป็น Print Server นั้น ให้ทำการเปิด Manage Your Server โดยการคลิก Start แล้วคลิก Manage Your Server จากนั้นให้ดำเนินการตามขั้นตอนดังนี้
1. ในหน้าต่าง Manage Your Server ให้คลิกที่ Add or remove a role ซึ่งจะได้ไดอะล็อกบ็อกซ์ Preliminary Steps สำหรับการใช้ทำการเพิ่มหรือลบบริการต่างๆ
2. ในหน้าไดอะล็อกบ็อกซ์ Preliminary Steps ให้คลิกปุ่ม Next
3. ในหน้าไดอะล็อกบ็อกซ์ Server Role ให้คลิกเลือก Print Server แล้วคลิกปุ่ม Next
4. ในหน้าไดอะล็อกบ็อกซ์ Printers and Printer Drivers ให้เลือกประเภทของเครื่องไคลเอนต์ว่าเป็น Windows 2000 and Windows XP clients only หรือ All Windows clients แล้วคลิกปุ่ม Next
5 . ในหน้าไดอะล็อกบ็อกซ์ Summary of Selections ตรวจสอบความถูกต้องของคอนฟิก เสร็จแล้วคลิกปุ่ม Next
6. ในหน้าไดอะล็อกบ็อกซ์ Welcome to the add Printer Wizard ให้คลิกปุ่ม Next
7. ในหน้าไดอะล็อกบ็อกซ์ Local or Network Printer ให้คลิกเลือก Local printer attached to this computer แล้วคลิกปุ่ม Next
8. ในหน้าไดอะล็อกบ็อกซ์ Select a Printer Port ให้เลือกเป็น Create a new port และเลือก Type of port เป็น Standard TCP/IP Port เสร็จแล้วคลิก Next
9. ในหน้าไดอะล็อกบ็อกซ์ Welcome to the Add Standard TCP/IP Printer Wizard ให้คลิกปุ่ม Next
10. ในหน้าไดอะล็อกบ็อกซ์ Add Port ให้ใส่หมายเลขไอพีของเครื่องพิมพ์ในช่อง Printer Name or IP Address (ระบบจะใส่ค่าในช่อง Port Name ให้โดยอัตโนมัติ) เสร็จแล้วคลิกปุ่ม Next
11. ในหน้าไดอะล็อกบ็อกซ์ Completing the Add Standard TCP/IP Printer Port Wizard ให้คลิก Finish
12. ในหน้าไดอะล็อกบ็อกซ์ Install Printer Software ให้เลือก ยี่ห้อ (Manufactory) และ รุ่น (Printers) ของเครื่องพิมพ์ที่ต้องการติดตั้ง เสร็จแล้วคลิกปุ่ม Next (* หากไม่มีชื่อเครื่องพรินเตอร์ในลิสท์รายชื่อให้ทำการบราวซ์จากแผนซีดีโดยคลิกที่ Have Disk แล้วเลือกโฟลเดอร์ที่เก็บไดร์ฟเวอร์ของเครื่องพิมพ์)
13. ในหน้าไดอะล็อกบ็อกซ์ Printer Sharing ให้ใส่ชื่อที่ต้องการในช่อง Share name แล้วคลิกปุ่ม Next
14. ในหน้าไดอะล็อกบ็อกซ์ Location and Comment ให้ใส่ค่าที่เหมาะสมในช่อง Location และ Comment เสร็จแล้วคลิกปุ่ม Next
15. ในหน้าไดอะล็อกบ็อกซ์ Print Test page หากต้องการทดลองทำการพิมพ์ให้คลิกเลือก Yes เสร็จแล้วคลิกปุ่ม Next
16. ในหน้าไดอะล็อกบ็อกซ์ Completing the Add Printer Wizard ให้คลิกปุ่ม Finish
17. ในหน้าไดอะล็อกบ็อกซ์ This Server is now a Print Server ให้คลิกปุ่ม Finish
หลังจากทำการติดตั้งเซิร์ฟเวอร์ 2003 เป็นพริ้นเซิร์ฟเวอร์และติดตั้งเครื่องพรินเตอร์เสร็จแล้ว ให้ตรวจสอบการทำงาน โดยการคลิก Start คลิก Control Panel คลิก Printers and Faxes หากการทำงานถูกต้องจะมีเครื่องพิมพ์ตามที่ได้ทำการติดตั้งตามขั้นตอนด้านบน
การเพิ่มเครื่องพรินเตอร์ (Add Printer) บนเครื่องพรินเซิร์ฟเวอร์
การ Add Printer เพิ่มเติมบนเครื่องพรินเซิร์ฟเวอร์นั้น ทำได้โดยการคลิกที่ลิงก์ Add a Printer บนหน้าต่าง Manage Your Server รูปที่ 6.1 จากนั้นให้ดำเนินการตามวิธีการติดตั้ง Print Server ในขั้นตอนที่ 6 -15
1. เปิดหน้าต่าง Printers and Faxes โดยการคลิก Start คลิก Control Panel คลิก Printers and Faxes
2. ให้คลิกขวาที่เครื่องพรินเตอร์ที่ต้องการจัดการ แล้วเลือก Properties จะได้หน้าไดอะล็อกบ็อกซ์ Printer Properties
3. ในหน้าไดอะล็อกบ็อกซ์ Printer Properties หากต้องการแก้ไขการแชร์เครื่องพิมพ์ให้คลิกแท็ป Sharing แล้วใส่ชื่อที่ต้องการในช่อง Share name เสร็จแล้วคลิก OK หรือ คลิกที่แท็ปอื่นตามความต้องการ
4. หากต้องการเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไข สิทธิ์ในการใช้งานเครื่องพิมพ์ของยูสเซอร์ ให้คลิกที่แท็ป Security ด้านขวามือ เสร็จแล้วคลิก OK หรือ คลิกที่แท็ปอื่นตามความต้องการ
5. บนแท็ป Security หากต้องการเพิ่มยูสเซอร์ที่อนุญาตใช้งานเครื่องพรินเตอร์ได้ ให้คลิกปุ่ม Add แล้วเลือกยูสเซอร์ที่ต้องการเพิ่ม เลือก Permission ที่ต้องการกำหนดให้แก่ยูสเซอร์ เมื่อเพิ่มยูสเซอร์เสร็จแล้วให้คลิก OK หรือ คลิกที่แท็ปอื่นตามความต้องการ
6. หากต้องการลบยูสเซอร์ให้คลิกเลือกยูสเซอร์ที่ต้องการลบ แล้วคลิกปุ่ม Remove หากต้องการแก้ไขระดับสูงให้คลิกปุ่ม Advanced แล้วทำแก้ไขตามความต้องการ หลังจากแก้ไขเสร็จแล้วคลิก OK
7. หลังจากทำการกำหนดค่าต่างๆ เสร็จแล้วคลิกปุ่ม OK
การใช้งานเครื่องพรินเตอร์ที่แชร์โดยเครื่องพรินเซิร์ฟเวอร์บนเครือข่าย
การเข้าใช้งานพรินเตอร์ที่แชร์โดยเครื่องพรินเซิร์ฟเวอร์บนเครือข่าย จากเครื่องไคลเอนต์คอมพิวเตอร์หรือเครื่องคอมพิวเตอร์ลูกข่ายนั้น มีวิธีการดังต่อไปนี้
1. คลิกที่ Start แล้วคลิก Printers and Faxes
2. ที่หน้าต่าง Printers and Faxes ในส่วน Printer Tasks คลิก Add Printer เพื่อเปิดในหน้าไดอะล็อกบ็อกซ์ Add Printer Wizard แล้วคลิก Next
3. ในหน้าไดอะล็อกบ็อกซ์ Local or Network Printer เลือก network printer or a printer attached to another computer แล้วคลิก Next
4. ในหน้าไดอะล็อกบ็อกซ์ Specify a Printer เลือกวิธีการใดวิธีการหนึ่งดังนี้
-Browse for a printer
-Connect to this printer แล้วพิมพ์ชื่อ UNC ของ share printer ที่ต้องการในช่อง Name: เสร็จแล้วคลิก Next
- Connect to a printer on the Internet or on your intranet แล้วพิมพ์ชื่อ http://printserver_name/Printers/share_name/.printer ในช่อง URL:
5. เสร็จแล้วคลิก Finish
หลังจากทำเพิ่มพรินเตอร์เสร็จแล้ว ให้ทำการทดลองใช้งานโดยทำการเปิดโปรแกรม Microsoft Word หรือ Notepad แล้วทำการสั่งพิมพ์งาน
ที่มาของข้อมูล
สำหรับวิธีการติดตั้งให้ Windows Server 2003 ทำหน้าที่เป็นพริ้นเซิร์ฟเวอร์ (Print Server) นั้นทำได้โดยการเพิ่ม Role ให้กับเซิร์ฟเวอร์จากหน้าต่าง Manage Your Server ลักษณะเช่นเดียวกับการติดตั้งเปนไฟล์เซิร์ฟเวอร์ โดยเมื่อเพิ่ม Role เสร็จแล้วจะมีลิงค์ Add a Printer บนหน้าต่าง Manage Your Server เพื่อใช้ในการ Add Printer เพื่อให้บริการแก่ยูสเซอร์
การติดตั้ง Windows Server 2003 เป็น Print Server
การติดตั้ง Windows Server 2003 ให้เป็น Print Server นั้น ให้ทำการเปิด Manage Your Server โดยการคลิก Start แล้วคลิก Manage Your Server จากนั้นให้ดำเนินการตามขั้นตอนดังนี้
1. ในหน้าต่าง Manage Your Server ให้คลิกที่ Add or remove a role ซึ่งจะได้ไดอะล็อกบ็อกซ์ Preliminary Steps สำหรับการใช้ทำการเพิ่มหรือลบบริการต่างๆ
2. ในหน้าไดอะล็อกบ็อกซ์ Preliminary Steps ให้คลิกปุ่ม Next
3. ในหน้าไดอะล็อกบ็อกซ์ Server Role ให้คลิกเลือก Print Server แล้วคลิกปุ่ม Next
4. ในหน้าไดอะล็อกบ็อกซ์ Printers and Printer Drivers ให้เลือกประเภทของเครื่องไคลเอนต์ว่าเป็น Windows 2000 and Windows XP clients only หรือ All Windows clients แล้วคลิกปุ่ม Next
5 . ในหน้าไดอะล็อกบ็อกซ์ Summary of Selections ตรวจสอบความถูกต้องของคอนฟิก เสร็จแล้วคลิกปุ่ม Next
6. ในหน้าไดอะล็อกบ็อกซ์ Welcome to the add Printer Wizard ให้คลิกปุ่ม Next
7. ในหน้าไดอะล็อกบ็อกซ์ Local or Network Printer ให้คลิกเลือก Local printer attached to this computer แล้วคลิกปุ่ม Next
8. ในหน้าไดอะล็อกบ็อกซ์ Select a Printer Port ให้เลือกเป็น Create a new port และเลือก Type of port เป็น Standard TCP/IP Port เสร็จแล้วคลิก Next
9. ในหน้าไดอะล็อกบ็อกซ์ Welcome to the Add Standard TCP/IP Printer Wizard ให้คลิกปุ่ม Next
10. ในหน้าไดอะล็อกบ็อกซ์ Add Port ให้ใส่หมายเลขไอพีของเครื่องพิมพ์ในช่อง Printer Name or IP Address (ระบบจะใส่ค่าในช่อง Port Name ให้โดยอัตโนมัติ) เสร็จแล้วคลิกปุ่ม Next
11. ในหน้าไดอะล็อกบ็อกซ์ Completing the Add Standard TCP/IP Printer Port Wizard ให้คลิก Finish
12. ในหน้าไดอะล็อกบ็อกซ์ Install Printer Software ให้เลือก ยี่ห้อ (Manufactory) และ รุ่น (Printers) ของเครื่องพิมพ์ที่ต้องการติดตั้ง เสร็จแล้วคลิกปุ่ม Next (* หากไม่มีชื่อเครื่องพรินเตอร์ในลิสท์รายชื่อให้ทำการบราวซ์จากแผนซีดีโดยคลิกที่ Have Disk แล้วเลือกโฟลเดอร์ที่เก็บไดร์ฟเวอร์ของเครื่องพิมพ์)
13. ในหน้าไดอะล็อกบ็อกซ์ Printer Sharing ให้ใส่ชื่อที่ต้องการในช่อง Share name แล้วคลิกปุ่ม Next
14. ในหน้าไดอะล็อกบ็อกซ์ Location and Comment ให้ใส่ค่าที่เหมาะสมในช่อง Location และ Comment เสร็จแล้วคลิกปุ่ม Next
15. ในหน้าไดอะล็อกบ็อกซ์ Print Test page หากต้องการทดลองทำการพิมพ์ให้คลิกเลือก Yes เสร็จแล้วคลิกปุ่ม Next
16. ในหน้าไดอะล็อกบ็อกซ์ Completing the Add Printer Wizard ให้คลิกปุ่ม Finish
17. ในหน้าไดอะล็อกบ็อกซ์ This Server is now a Print Server ให้คลิกปุ่ม Finish
หลังจากทำการติดตั้งเซิร์ฟเวอร์ 2003 เป็นพริ้นเซิร์ฟเวอร์และติดตั้งเครื่องพรินเตอร์เสร็จแล้ว ให้ตรวจสอบการทำงาน โดยการคลิก Start คลิก Control Panel คลิก Printers and Faxes หากการทำงานถูกต้องจะมีเครื่องพิมพ์ตามที่ได้ทำการติดตั้งตามขั้นตอนด้านบน
การเพิ่มเครื่องพรินเตอร์ (Add Printer) บนเครื่องพรินเซิร์ฟเวอร์
การ Add Printer เพิ่มเติมบนเครื่องพรินเซิร์ฟเวอร์นั้น ทำได้โดยการคลิกที่ลิงก์ Add a Printer บนหน้าต่าง Manage Your Server รูปที่ 6.1 จากนั้นให้ดำเนินการตามวิธีการติดตั้ง Print Server ในขั้นตอนที่ 6 -15
1. เปิดหน้าต่าง Printers and Faxes โดยการคลิก Start คลิก Control Panel คลิก Printers and Faxes
2. ให้คลิกขวาที่เครื่องพรินเตอร์ที่ต้องการจัดการ แล้วเลือก Properties จะได้หน้าไดอะล็อกบ็อกซ์ Printer Properties
3. ในหน้าไดอะล็อกบ็อกซ์ Printer Properties หากต้องการแก้ไขการแชร์เครื่องพิมพ์ให้คลิกแท็ป Sharing แล้วใส่ชื่อที่ต้องการในช่อง Share name เสร็จแล้วคลิก OK หรือ คลิกที่แท็ปอื่นตามความต้องการ
4. หากต้องการเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไข สิทธิ์ในการใช้งานเครื่องพิมพ์ของยูสเซอร์ ให้คลิกที่แท็ป Security ด้านขวามือ เสร็จแล้วคลิก OK หรือ คลิกที่แท็ปอื่นตามความต้องการ
5. บนแท็ป Security หากต้องการเพิ่มยูสเซอร์ที่อนุญาตใช้งานเครื่องพรินเตอร์ได้ ให้คลิกปุ่ม Add แล้วเลือกยูสเซอร์ที่ต้องการเพิ่ม เลือก Permission ที่ต้องการกำหนดให้แก่ยูสเซอร์ เมื่อเพิ่มยูสเซอร์เสร็จแล้วให้คลิก OK หรือ คลิกที่แท็ปอื่นตามความต้องการ
6. หากต้องการลบยูสเซอร์ให้คลิกเลือกยูสเซอร์ที่ต้องการลบ แล้วคลิกปุ่ม Remove หากต้องการแก้ไขระดับสูงให้คลิกปุ่ม Advanced แล้วทำแก้ไขตามความต้องการ หลังจากแก้ไขเสร็จแล้วคลิก OK
7. หลังจากทำการกำหนดค่าต่างๆ เสร็จแล้วคลิกปุ่ม OK
การใช้งานเครื่องพรินเตอร์ที่แชร์โดยเครื่องพรินเซิร์ฟเวอร์บนเครือข่าย
การเข้าใช้งานพรินเตอร์ที่แชร์โดยเครื่องพรินเซิร์ฟเวอร์บนเครือข่าย จากเครื่องไคลเอนต์คอมพิวเตอร์หรือเครื่องคอมพิวเตอร์ลูกข่ายนั้น มีวิธีการดังต่อไปนี้
1. คลิกที่ Start แล้วคลิก Printers and Faxes
2. ที่หน้าต่าง Printers and Faxes ในส่วน Printer Tasks คลิก Add Printer เพื่อเปิดในหน้าไดอะล็อกบ็อกซ์ Add Printer Wizard แล้วคลิก Next
3. ในหน้าไดอะล็อกบ็อกซ์ Local or Network Printer เลือก network printer or a printer attached to another computer แล้วคลิก Next
4. ในหน้าไดอะล็อกบ็อกซ์ Specify a Printer เลือกวิธีการใดวิธีการหนึ่งดังนี้
-Browse for a printer
-Connect to this printer แล้วพิมพ์ชื่อ UNC ของ share printer ที่ต้องการในช่อง Name: เสร็จแล้วคลิก Next
- Connect to a printer on the Internet or on your intranet แล้วพิมพ์ชื่อ http://printserver_name/Printers/share_name/.printer ในช่อง URL:
5. เสร็จแล้วคลิก Finish
หลังจากทำเพิ่มพรินเตอร์เสร็จแล้ว ให้ทำการทดลองใช้งานโดยทำการเปิดโปรแกรม Microsoft Word หรือ Notepad แล้วทำการสั่งพิมพ์งาน
ที่มาของข้อมูล
วันอังคารที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2554
Domain Controller
Create domain windows server 2003 R2
DC ก็คือเครื่องที่ใช้ในการควบคุม AD (Active Directory) ซึ่งทำหน้าที่เสมือนเป็นตัวเก็บข้อมูลต่างๆ ของ User ที่อยู่บนระบบโดเมนไว้ ช่วยให้ง่ายต่อการจัดการและควบคุมสิทธิ์การใช้งานต่างๆ
ซึ่งใน 1 AD สามารถมี DC ได้หลายตัว แต่ DC 1 เครื่อง สามารถควบคุม AD ได้เพียงตัวเดียวเท่านั้น
Link create domain
DHCP
Install and Configure DHCP Server in Win server 2003
Create a Domain user account for windows server 2003
Link vdo create domain user
Re join domain
Step to step
1.re join domain, then join workgroup
-put name work group
-put user and pass domain
2.restart computer
3.join domian
-put doamin name
4.finished
Report Internet
...........................**
DC ก็คือเครื่องที่ใช้ในการควบคุม AD (Active Directory) ซึ่งทำหน้าที่เสมือนเป็นตัวเก็บข้อมูลต่างๆ ของ User ที่อยู่บนระบบโดเมนไว้ ช่วยให้ง่ายต่อการจัดการและควบคุมสิทธิ์การใช้งานต่างๆ
ซึ่งใน 1 AD สามารถมี DC ได้หลายตัว แต่ DC 1 เครื่อง สามารถควบคุม AD ได้เพียงตัวเดียวเท่านั้น
Link create domain
DHCP
Install and Configure DHCP Server in Win server 2003
Create a Domain user account for windows server 2003
Link vdo create domain user
Re join domain
Step to step
1.re join domain, then join workgroup
-put name work group
-put user and pass domain
2.restart computer
3.join domian
-put doamin name
4.finished
Report Internet
...........................**
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)